รายการอัพเดท

หนังสือดีน่าสะสม ของคนรักหนังสือ มีแล้วที่นี่ http://www.thaibook.net/

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ซีเบ๊จี่อิง


ซีเบ๊จี่อิง เป็นนักเขียนนามโรจน์ของไต้หวัน จัดเป็นหนึ่งในสามนักเขียนรุ่นใหม่ของไต้หวัน  มีความเป็นมาและผลงานการเขียนพอสรุปได้ดังนี้

ซีเบ๊จี่อิง (ซีเบ๊เป็นแซ่สองตัว จี่อิงแปลว่าควันม่วง) มีชื่อจริงว่า เตียโจ้วท้วง เป็นชาวมณฑลอานฮุย สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซือต้าและต้าเจียง คณะอักษรศาสตร์ ระหว่างที่อยู่ในช่วงการศึกษา ก็เริ่มหัดเขียนนิยาย ผลงานที่อยู่ในความทรงจำที่สุด เป็นนิยายชีวิตที่มีความยาวประมาณสองหมื่นกว่าตัว ตั้งชื่อว่า โคมเขียว นำลงในหนังสือพิมพ์หมิงจู๋หวั่นเป้า ฉบับบ่าย เขียนถึงชีวิตของนางโลมอายุเยาว์ และอันธพาลในท้องที่ แจกแจงธาตุแท้ใจคอของผู้คนอย่างลึกซึ้ง ได้รับคำชมจากอาจารย์ของเขา ซึ่งปัจจุบันเป็นนักเขียนหญิงนามเจี่ยเปียเอี้ยงอย่างมาก

หลังจากจบการศึกษา ซีเบ๊จี่อิงได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ประจำอยู่หน่วยวิทยุสื่อสาร ระหว่างนั้น อ้อเล้งเซ็ง และ จูกัวะแชฮุ้น ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงกระเดื่องดัง นิยายกำลังภายในเป็นที่ต้องการของหนังสือพิมพ์และสำนักพิมพ์ต่างๆ ซีเบ๊จี่อิงก็เริ่มจับปากกาเขียนนิยายกำลังภายในดูบ้าง โดยใช้นามปากกาซีเบ๊จี่อิง ซึ่งตีคู่กับจูกัวะแชฮุ้น กล่าวคือซีเบ๊กับจูกัวะเป็นแซ่สองตัว จี่อิงแปลว่าควันม่วง พอดีคู่กับแชฮุ้นซึ่งแปลว่าเมฆเขียว 

ผลงานเรื่องแรกของซีเบ๊จี่อิงคือ กังโอ้วแม้โหวจับนี้เต็ง ซึ่งสถานีโทรทัศน์ไต้หวันเพิ่งดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ทีวี เมืองไทยก็มีวีดีโอเทปตั้งชื่อว่า ศึกชุมนุมเจ้ายุทธจักร เรื่องนี้ได้รับการกล่าวขวัญถึงไม่น้อย จึงตกลงเขียน กังโอ้วแม้โหวจับนี้เต็ง ภาค 2 ต่อด้วยเรื่อง แป๊ะเท้างิ้ม (ผมขาวรำพัน) รวมเป็นหนังสือปกอ่อนถึง 77 เล่ม นับเป็นเรื่องยาวอันดับสองรองจากอ้อเล้งเซ็ง ซึ่งเขียนเรื่องกิมเกี่ยมเตียวเล้ง (กระบี่ป้องปฐพี) มีความยาว 96 เล่ม

นอกจากนั้น ซีเบ๊จี่อิงยังมีผลงานดีเด่นอีกมากมาย นำความแปลกใหม่มาสู่วงการนิยายกำลังภายใน อาทิเช่นเรื่องโชยชิ่วบ๊วยฮวยเจ่กเกี่ยมฮั้ง (นักสู้สะท้านภพ) บ้วนลี้กังซัวเจ่กโกวเคี้ย (มารผยอง) กิมป๊กโกว (เกาทัณฑ์สยบฟ้า) เป็นต้น ท่านที่เคยอ่านผลงานของท่านผู้นี้มาบ้างคงทราบดี

ระหว่างที่ซีเบ๊จี่อิงทำงานในกรมสื่อสารทหาร ต้องอยู่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวที่ผู้คนทั่วไปแทบทนทานไม่ได้ แต่เขายังสามารถนั่งเค้นสมองเขียนนิยายกำลังภายใน ถือเป็นความสามารถที่เหลือเชื่อประการหนึ่ง

ซีเบ๊จี่อิงยังมีความสามารถพิเศษอีกประการหนึ่งคือนั่งทน เขาให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อจับปากกาเขียนหนังสือจะหยุดไม่ได้ ต่อให้เหน็ดเหนื่อยสาหัสเพียงไหนยังต้องเขียนต่อไป พอหยุดมือเมื่อใดจะไม่อยากเขียนอีก เขาเคยทำสถิตินั่งทนเป็นเวลายี่สิบชั่วโมง ในยี่สิบชั่วโมงนี้ไม่ลุกจากเก้าอี้ มือไม่ห่างจากปากกา ใช้มือซ้ายยกถ้วยชาหยิบจับอาหารแทน

ซีเบ๊จี่อิงแม้ทำงานนั่งทน แต่นิสัยกลับชอบเคลื่อนไหว ระหว่างเล่าเรียนหนังสือเป็นนักกีฬาตัวยง ชอบทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล นอกจากนั้นยังโปรดปรานสุรา เพียงแต่ไม่พิถีพิถันการดื่มเช่นโก้วเล้ง ไม่ว่าเหล้าอะไรก็ได้ แต่ขณะที่ดื่มเหล้ามีโรคแปลกอย่างหนึ่ง คือชอบหลั่งเหงื่อตลอดเวลา ดังนั้นความสามารถในการดื่มจัดอยู่ในขั้นคอทองแดงคนหนึ่ง

คนไม่อาจวัดคำนวณด้วยรูปโฉม หน้าตาของซีเบ๊จี่อิงราบเรียบธรรมดา แต่มันสมองและปัญญาความคิดของเขายากที่จะมีคนเสมอเหมือน เขาสามารถเขียนนิยายกำลังภายใน เขียนนิยายชีวิต เขียนอาชญนิยาย เขียนนิยายกังฟู เขียนนิยายอิงประวัติศาสตร์ กล่าวได้ว่าเขียนได้แทบทุกแนว

เขาเคยเขียนนิยายกังฟูให้กับหนังสือพิมพ์ยูไนเต็ด โดยใช้นามปากกา จูเอี้ยง เขียนนิยายเกร็ดประวัติศาสตร์ให้กับหนังสือพิมพ์ต้าหัวหวั่นเป้า ด้วยเรื่องจี่เง็กเทย โดยใช้นามปากกาซีเบ๊ ซึ่งสร้างชื่อให้กับเขาเช่นกัน ใช้เวลานำลงในหนังสือพิมพ์ถึงสี่ปี ระหว่างนี้ยังเขียนบทความเรื่องแก่นแท้เพลงมวยไท้เก๊ก นำลงในหนังสือพิมพ์สากลที่ตีพิมพ์ในสหรัฐอเมริกา โดยใช้นามปากกา จี่โซ่ว (เฒ่าม่วง) ใช้หลักวิทยาศาสตร์แยกแยะความลึกซึ้งไพศาลของเพลงมวยไท้เก๊ก อธิบายเคล็ดความกระบวนท่าต่างๆโดยละเอียด ตลอดจนเคล็ดลับของการใช้พลังอย่างไร สร้างความสั่นสะเทือนแก่วงการหมัดมวยแถบโพ้นทะเล และเพื่อนร่วมชาติที่ฝึกเพลงมวยไท้เก๊กไม่น้อย ดังนั้นซีเบ๊จี่อิงสมควรรับคำ “ปัญญาลึกล้ำดั่งห้วงสมุทร” ได้อย่างแท้จริง


ใน คำโปรยเรื่อง กระบี่เหนือกระบี่ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 โดย น. นพรัตน์


ผลงานที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย


1. กระบี่เหนือกระบี่ . นพรัตน์ เรื่องเดียวกับ  บัลลังก์ทอง จำลอง พิศนาคะ
จำนวนเล่มจบ : 4 เล่มจบ - สยามสปอร์ตพับลิชชิ่ง - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2528
จำนวนเล่มจบ : 3 เล่มจบ - วิถีบูรพา - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2553
ข้อมูลเพิ่มเติม : เรื่องเดียวกับ บัลลังก์ทอง (จำลอง พิศนาคะ)
เนื้อเรื่องย่อ : ต้นกำเนิด ประสบการณ์ ตลอดจนชีวิตความรักที่ผิดแผกแตกต่างจากสามัญชนคนธรรมดา เพลงกระบี่ของบู๊ลิ้มตงง้วน ยอดวิชาของตระกูลเร้นลับ เพลงดาบซามูไรจากแดนอาทิตย์อุทัย ทุกวิทยายุทธล้วนละเอียดลึกล้ำ การหักเล่ห์ชิงเหลี่ยม ต่อสู้ด้วยไหวพริบและฝีมืออย่างน่าทึ่ง จากเหตุการณ์หนึ่ง สู่อีกเหตุการณ์หนึ่ง มรสุมลูกหนึ่งทะยอยไล่มรสุมอีกลูกหนึ่ง..... โดยเฉพาะ ตีแผ่ธาตุแท้จิตใจคน ความลึกซึ้งชั่วร้ายของมนุษยชาติอย่างถึงแก่น 



2. นักสู้สะท้านภพ . นพรัตน์ เรื่องเดียวกับ ฝ่ามือสังหาร . โชคสัมฤทธิ์   



นักสู้สะท้านภพ (โชยชิ่วบ๊วยฮวยเจ่กเกี่ยมฮั้ง)

ผู้แต่ง : ซี่เบ๊จี่อิง
ผู้แปล : . นพรัตน์
จำนวนเล่มจบ : 24 เล่มจบ - บรรณกิจ -อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2520
จำนวนเล่มจบ : 6 เล่มจบ - บรรณกิจ -อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2521
จำนวนเล่มจบ : 5 เล่มจบ - สยามสปอร์ตพริ้นติ้ง - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2537
3. กระบี่พิศวาส . นพรัตน์ 
4. มารกระบี่เดียว . นพรัตน์
5. เกาทัณฑ์สยบฟ้า. ณ เมืองลุง 
6. มารผยอง . เมืองลุง



มารผยอง (ป้วนลี้กังซัวเจ่กโกวเคี้ย)

ผู้แต่ง: ซี่เบ๊จี่อิง
ผู้แปล: . เมืองลุง

พิมพ์ครั้งที่ 1 สำนักพิมพ์เพลินจิตต์ เล่มบางจำนวน 22 เล่มจบ ปี พ.. 2509
พิมพ์ครั้งที่ 2 สำนักพิมพ์คลังวิทยา จำนวน 6 เล่มจบ ปี .. 2524

กวนซัวง้วยเป็นเจ้าของประกาศิตอูฐขาวรุ่นที่2 นัดประลองกับยอดฝีมือจากสำนัก ค่าย ป้อมต่างๆทั้งแผ่นดิน เนื่องจากเมื่อ 20 ปีก่อนอาจารย์ที่เป็นเจ้าของประกาศิตรุ่นที่ 1 ได้ตระเวนประลองเดิมพันเอาชนะทุกๆสำนักจนได้สัญลักษณ์ประจำของทุกสำนักมาเก็บรักษาไว้ แลัวนัดว่า 20 ปีให้หลังให้มาประลองกันใหม่ ทุกคนเลยขวนขวายฝึกฝีมือเพื่อจะชิงสัญลักษณ์ของสำนักตนเองคืน เป็นการเปิดเรื่องที่เยี่ยมยอดมากครับ

ต่อมาเป็นเรื่องของหุบเขาหนึ่งที่ดำเนินแผนจะครองบู๊ลิ้มและพระเอกต้องขัดขวาง ส่วนเนื้อเรื่องหลักเป็นการที่พระเอกไปสืบสาวความลับของชมรมทวยเทพซึ่งรวบรวมยอดฝีมือไว้มากมายและลึกลับสุดยอด และกลับเกี่ยวพันกับพระเอกอย่างแนบแน่นทำให้ต้องไปเกี่ยวข้อง ต่อมาพระเอกซึ่งเป็นกำพร้าที่อาจารย์เก็บมาเลี้ยงไปค้นพบชาติกำเนิดซึ่งซับซ้อนจนต้องสะสางบุญคุณความแค้นไปพร้อมๆกับการขัดขวางมารร้ายที่จะครองยุทธจักร ก็จบภาคแรกซึ่งก็ถือว่าสมบูรณ์ในตัว ผมพยายามเล่าแบบไม่ให้เสียอรรถรสการอ่าน พล็อตจริงๆน่าสนใจและมีจุดผกผันหลายจุดทีเดียว เป็นเรื่องยาวที่สนุกมากครับ เรื่องนี้ไม่เน้นการหักเหลี่ยมกันซับซ้อนเหมือนเรื่องอื่นๆของท่านซีเบ๊จี่อิง เสียดายที่ยังไม่มีภาคสองออกมา  

7. หิมะเดือนหก . เมืองลุง 



มารผยอง (ป้วนลี้กังซัวเจ่กโกวเคี้ย)

ผู้แต่ง : ซี่เบ๊จี่อิง ผู้แปล : ว. ณ เมืองลุง

จำนวนเล่มจบ : 22 เล่มจบ (เล่มเล็ก) - เพลินจิตต์ - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2509
จำนวนเล่มจบ : 6 เล่มจบ - คลังวิทยา - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2524

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หนังสือดีเด่นปี 2553

     
      ผลการประกวดหนังสือดีเด่นปี 2553 จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ว่า ปีนี้มีสำนักพิมพ์ และหน่วยงานต่าง ๆ  93 แห่ง ส่งหนังสือเข้าประกวดหนังสือดีเด่น 13 ประเภท รวมจำนวนทั้งสิ้น 444 เรื่อง ซึ่งผลการตัดสินเป็น ดังนี้
      ประเภทหนังสือสารคดี มีหนังสือส่งเข้าประกวด 53 เรื่อง
      ไม่มีหนังสือเรื่องใดสมควรได้รับรางวัลดีเด่น 
      รางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่
    1. เครื่องกลไกคลาสสิค ของ อเนก นาวิกมูล,
    2. ชีวิตทนง อหังการ์ของหัวใจ ที่ร่างกายไม่อาจกักขังทะนง โคตรชมพู ของ ภานุมาศ ภูมิถาวร,
    3. ท่องแดนมังกร : Silk Road เส้นทางสายแพรไหมในซินเจียง ของ ปริวัฒน์ จันทร
          
      ประเภทหนังสือนวนิยาย ส่งประกวดทั้งหมด 37 เรื่อง
      ไม่มีหนังสือเรื่องใดสมควรได้รับรางวัล
      รางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่
    1. กุสาวดี แผ่นดินนี้ยังมีรัก ของ เรซิน ,
    2. จ้าวจตุรทิศ  ภาคสุริยคราส ของ รัณ ศยา,
    3. ในสวนเมฆ ของชมัยภร แสงกระจ่าง

      หนังสือกวีนิพนธ์ ส่งประกวดทั้งหมด 10 เรื่อง
      ไม่มีหนังสือเรื่องใดสมควรได้รับรางวัล
      รางวัลชมเชย มี 3รางวัล ได้แก่
    1. บทเพลงของการโบกบิน ของ ชัยพร ศรีโบราณ,
    2. พงศาวดารพิภพ ของ ธีรภัทร เจริญสุข ,
    3. หนทางและที่พักพิง ของ อังคาร จันทาทิพย์ 

      หนังสือรวมเรื่องสั้น ส่งประกวดทั้งหมด 11 เรื่อง
      รางวัลดีเด่น ได้แก่
      1 CM ของ โอสธี
      รางวัลชมเชย มี 2รางวัล ได้แก่  
    1. นักประดิษฐ์ ทุกคนเป็นสิ่งประดิษฐ์ ของ ภูฉาน พันฉาย ,
    2. พ่อเป็นหมอ ของ ธาดา เกิดมงคล


      หนังสือสำหรับเด็กเล็กอายุ3-5  ปี ส่งประกวดทั้งหมด 92 เรื่อง
      รางวัลดีเด่น ได้แก่
      ตุ๊กแกกั๊บแจกลาย  ของ คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์
      รางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่  
    1. ป่าเปลี่ยนสี ของ ปรีดา ปัญญาจันทร์
    2. มามะท้าตั้งไข่  ของ เอื้อพร สัมมาทิพย์ และคณะ ,
    3. สี่เกลอพิสดาร ของ ชีวัน วิสาสะ


      หนังสือบันเทิงคดี สำหรับเด็ก อายุ 6-11 ปี ส่งประกวด 28 เรื่อง
      รางวัลดีเด่น ได้แก่
      ชมพู่วันเพ็ญ ของ ดำรงศักดิ์ บุญสู่
      รางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่  
    1. กระต่ายน้อยนอนไม่หลับ ของ อธิษฐาน ปกป้อง,
    2. ความดีสีเหลืองส้ม ของ รัตนา คชนาท ,
    3. ม็อกซ์แมวมหัศจรรย์ ของ สุมาลี
    4. หนังสือสารคดี สำหรับเด็ก อายุ 6-11 ปี ส่งประกวด 12 เรื่อง
      ไม่มีหนังสือเรื่องใดสมควรได้รับรางวัล
      รางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่  
    5. จินตนาการ : สานสรรค์การ์ตูนรูปสัตว์ของ ครูอ๋า : สิทธิพร กุลวโรตตมะ,
    6. ดอกไม้ริมทาง ของ ลุงมวล,
    7. ดาวน้อยสีน้ำเงิน ของ เดซี่
    8. หนังสือบันเทิงคดีสำหรับเด็กวัยรุ่น อายุ 12-18 ปี ส่งเข้าประกวดทั้งหมด 24 เรื่อง
      รางวัลดีเด่น  ได้แก่
      แผ่นดินพ่อ  ของ ญิบ พันจันทร์
      รางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่  
    9. กล้องส่องทางใจ ของ สิริพันธุ์ สุนทรวิจิตร,
    10. รุ้งสายฝน ของ ณรงค์ฤทธิ์ ศักดารณรงค์ ,
    11. ลมแล้งเริงระบำ  ของ จตุพร แพงทองดี

      หนังสือสารคดีสำหรับเด็กวัยรุ่น อายุ 12-18 ปี ส่งเข้าประกวด 9 เรื่อง
      ไม่มีหนังสือเรื่องใดสมควรได้รับรางวัล
      รางวัลชมเชย มี 1 รางวัล ได้แก่  
      78 ตารางวา ของ  คณา คชา 
      หนังสือบทร้อยกรองสำหรับเด็กวัยรุ่น อายุ 12-18 ปี ส่งเข้าประกวด 4 เรื่อง
      รางวัลดีเด่น ได้แก่ ของขวัญจากหัวใจ ของ วรวุฒิ ภักดีบุรุษ
      รางวัลชมเชย มี 1 รางวัล ได้แก่  
      น้ำในสำนวนไทย ของ สุวัฒน์ ไวจรรยา
      หนังสือการ์ตูนหรือนิยายภาพ ส่งเข้าประกวด 61 เรื่อง
      รางวัลดีเด่น ได้แก่
      การ์ตูนประวัติศาสตร์ชาติไทย ยุคสุโขทัย เล่มที่ 1 กำเนิดสุโขทัย การรวมตัวของคนไทยของ สละ นาคบำรุง
      รางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่  
    1. การ์ตูนประวัติศาสตร์ชาติไทย ยุคอยุธยา เล่มที่ 1 กำเนิดกรุงศรีอยุธยา ปฐมราชวงศ์กรุงศรีอยุธยา”  ของ สละ นาคบำรุง,
    2. พระสังกัจจายน์ ของ โอม รัชเวทย์,
    3. โรงเรียนเม็ดกวยจี๊ คูณ3ของ อิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์

      หนังสือสวยงามทั่วไป ส่งเข้าประกวดทั้งหมด 23 เรื่อง
      รางวัลดีเด่น ได้แก่ เดินตามฝัน ของ ระวีวรรณ ประกอบผล
      รางวัลชมเชย มี 1 รางวัล ได้แก่  
    1. พระของประชาชน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกของ ศิริวรรณ สุขวิเศษ ,
    2. พระมหามณฑป พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร สถิตศรัทธาสถาพร ของ วิศิษฎ์ ลิ้มประนะ และคณะ,
    3. สารานุกรมภาพลายเส้น สถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ เล่ม 1 บ้านของ ธีรศักดิ์ วงศ์คำแน่น 
    4. หนังสือสวยงามสำหรับเด็ก ส่งเข้าประกวดทั้งหมด 80 เรื่อง
      รางวัลดีเด่นได้แก่ ดอกไม้ริมทาง ของ ลุงมวล
      รางวัลชมเชย มี 1 รางวัล ได้แก่  
    5. ข้าวเพียงเมล็ดเดียว ของ สมบูรณ์ ศิงฆมานันท์,
    6. นิทานจากโลกตะวันออก ของ รัตนา คชนาท ,
    7. มหัศจรรย์รามเกียรติ์สำหรับเด็ก ของ ปิติพร วทาทิยาภรณ์